พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
พระฤาษี หน้าสมิ...
พระฤาษี หน้าสมิงพราย เนื้อดิน กรุวัดมหาวัน จ.ลำพูน
ท่านปู่เจ้าสมิงพราย เป็นฤๅษีที่มีอาศรมบนภูเขาอยู่ทางภาคเหนือดินแดนล้านนา เป็นฤๅษีที่สัมฤทธิ์โลกียญาณ คือ ญาณในโลก ประกอบด้วย อิทธิฤทธิ์วิธี (แปลงกาย เหาะเหินเดินอากาศ บังตาดลใจได้) ทิพจักขุ (มีตาทิพย์ ได้บุพเพสาวานุสิติญาณ เห็นบุพกรรมต่างๆ) เป็นต้น รูปร่างหน้าตาของท่านปู่เจ้าสมิงพรายเอาแน่เอานอนไม่ได้ ท่านสามารถปรากฏกายอยู่ในรูปอะไรก็ได้ ทั้งเด็กหนุ่ม วัยรุ่น วัยกลาง วัยเฒ่าแก่ เป็นเสือโคร่ง เสือเหลือง หรือแมว เป็นโน้นเป็นนี่ตามแต่ท่านจะปรารถนาให้เห็น
ส่วนเรื่องอายุของท่านปู่เจ้าสมิงพรายก็หลายร้อยๆปี ทราบมาว่าท่านอยู่ได้ถึง ๑ กัปเลยทีเดียว ส่วนต้นสายปลายเหตุระวัติว่าท่านเห็นใครมาจากไหนนั้นก็ไม่ทราบ ไม่มีชื่อจริงของท่าน นอกจาก “ปู่เจ้าสมิงพราย”
ในลิลิตพระลอ ปู่เจ้าสมิงพราย เป็นชายแก่ๆ แต่ปรากฏวัยกลางคน นุ่งขาวห่มขาว พำนักอาศัยอยู่ป่าเขาลำเนาไพร มีฤทธิ์มีเดชมาก เก่งกาจในทางคาถาอาคมและการทำมหาเสน่ห์มหานิยม เสกสลาเหิร(แมลงภู่)บินไปตกลงเป็นหมากผู้ที่กินต้องตกอยู่ภายใต้มนต์คาถา ปลุกผีเรียกภูตเทวดาได้ และท่านยังไม่รับเงินตราหรือทรัพย์สมบัติใดๆ ช่วยตามบุพกรรมเก่า
เสียงลือเสียงเล่าอ้างอันใด พี่เอย
เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า
สองเขือพี่หลับใหล ลืมตื่น ฤๅพี่
สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ถามเผือ ๚ะ
ในหนังสือเรียนวิชาภาษาไทย โดยกล่าวถึงลิลิตพระลอ ผมอ่านแค่รอบเดียวบทนี้ผมจำได้มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเป็นอะไรที่มาดลใจอย่างหน้าประหลาด จากนั้นผมก็ไม่ได้สนใจอะไรกับลิลิตพระลอจนอยู่มาวันหนึ่งได้ยินเพลงยอยศพระลอ และอะไรอีกก็ไม่รูมาดลใจให้อยากอ่านลิลิตพระลอ ผมจึงเริ่มอ่านมาตั่งแต่ตอนนั้น ชั้นประถมนะอ่านโคลงกลอนใช้ว่าจะรู้เรื่องเข้าใจไปซะหมด อ่านจากหนังสืออ่านเล่นสำหลับเด็กและที่ขยายความแล้ว ทำให้รู้จักชื่อนี้ “ปู่เจ้าสมิงพราย” รู้จักว่าเป็นใคร? และต่อมาก็เป็นแรงบันดาลใจพอผมโตขึ้นเล่นของเลย ความจริงเริ่มมีแววมาแต่เด็กๆแล้วครับ
มาเข้าประวัติของท่านปู่เจ้าสมิงพราย โดยส่วนตัวผมเรียกท่านว่า “ปู่เจ้าสมิงไพร” องค์เดียวกันนั้นแหละครับ แต่ในที่นี้จะเขียนว่าปู่เจ้าสมิงพรายจะได้ไม่สับสนงุนงง ขอกล่าวจากเนื้อหาลิลิตพระลอ ในตอนต่างๆที่เกี่ยวกับท่านปู่เจ้าสมิงพราย ในตอนแรกจะเท้าความถึงเมื่อสมัยต้นกรุงศรีอยุธยา สมัยนั้นมีเมืองเหนืออยู่สองเมือง คือ เมืองสรวงและเมืองสรอง ซึ่งจากการสันนิษฐานเมื่อเมืองสรอง ปัจจุบันตั้งอยู่ที่อำเภอสอง จังหวัดแพร่ (อ้างอิงจากพงศาวดารโยนก และ พงศาวดารเมืองน่าน กล่าวถึงเมืองสอง) ส่วนอีกเมืองหนึ่ง ชื่อว่าเมืองสรวง สันนิษฐานว่าเมืองสรวงน่าจะอยู่ที่อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง
ท้าวแมนสรวง พระยาหลวงผ่านเผ้า เจ้าเมืองสรวง มีโอรสองคหนึ่งนามว่า พระลอ ท้าวแมนสรวงต้องการตีเมืองสรองเป็นเมืองขึ้น แต่ทำไม่สำเร็จเพราะท้าวพิไชยยพิษณุกรป้องกันเมืองสรองไว้ได้ แต่กระนั้น พระยาพิมพิสาครราช เจ้าเมืองสองก็สวรรคตบนคอช้าง ต่อมาเมื่อสิ้นท้าวแมนสรวงแล้ว พระลอจึงเสวยราชสมบัติสืบเมืองสรวงต่อ ชื่อเสียงในความหลอของพระลอเล่าลือกันไปทั่ว จนกิตติศัพท์นี้เข้าหูพระเพื่อนกับพระแพง ธิดาในท้าวเมืองสรอง พระเพื่อนพระแพงถึงกับจับไข้ในชื่อเสียงความหล่อของพระลอ (อะไรจะหล่อขนาดนั้น)
พระพี่เลี้ยงทราบความนัยว่าแกล้งป่วย จึงแสร้งไปบอกพระย่าและพระบิดามาดารของพระเพื่อนพระแพงว่า จับไข้ด้วยขวัญหนีเข้าป่า ต้องรีบเรียกขวัญกลับมาโดยเร็ว สองพี่เลี้ยงจึงเบิกช้างต้น เทียมลม(น่าจะเร็วเท่าลม) และพระพาย(ช้างตัวนี้เร็วเท่าลม) ไปรับพ่อหมอใหญ่ เพื่อขึ้นเขาไปขอความช่วยเหลือจากปู่เจ้าสมิงพราย
ถึงตอนนี้จากบทประพันธ์บทหนึ่งตอนที่หมอใหญ่พาสองพี่เลี้ยงไปพบปู่เจ้าสมิงพราย
“o ตามกันไปบหึง ถึงตีนเขาแต่ล่าง แลลิงค่างบ่างชนี ผีผิ่วร้องน่ากลัว หัวหูพองอยู่คร้าม เสือสางด้ามด้อมทาง แรดควายขวางขวัดอยู่ หมู่กระทิงเที่ยวป่า วัวลานล่าเล็มไพร หมู่หมีไปคคล้าย นางช้างผ้ายคคล่ำ บรู้กี่ส่ำตามสาร งูพพานพิษกล้า งูเหลือมคว้ารัดควาย เยียงผาผายปีนป่าย ฝ่ายช้างพังเซราซรึก สัตว์พันฦกพันลาย .........เห็นแนวน้ำบางบึง ชรทึงธารห้วยหนอง จระเข้มองแฝงฝั่ง สรพรั่งหัวขึ้นขวักไขว่ ช้างน้ำไล่แทงเงา เงือกเอาคนใต้น้ำ กระล่ำตากระเหลือก กระเกลือกกลอกตากลม ผมกระหวัดจำตาย ฝ่ายหนปลายไม้แมก ฟังเสียงแสรกเง้างูด ทิ้งทูดบ่นพพึมเสียง เค้ากู่เคียงคู่ร้อง ก้องดงดุจตระหวาด ผาดฟังตกใจกลัว...บ เปนใดดอกนะแม่ กระแหน่นี้นะเจ้า พระปู่เราหากทำเอง...”
บทนี้หมอใหญ่พาสองพี่เลี้ยงมาถึงตีนเขาที่ปู่เจ้าสมิงพรายพำนักอยู่ ซึ่งมีสิงสาราสัตว์เผ่นพ่านไปทั่ว เห็นแล้วต้อสะพรึงกลัว เช่น งูเหลือมกำลังรัดควาย เป็นต้น พอถึงบึงก็เห็นจระเข้ และช้างน้ำไล่แทงงา เงือกกำลังสมสู่กับคนใต้น้ำ ดูแล้วน่ากลัวยิ่งนัก และหมอใหญ่บอกสองพี่เลี้ยงว่าไม่ต้องกลัวไม่เป็นอะไรหรอก ปู่เจ้าสมิงพรายดลให้เห็น
อีกบทหนึ่งเป็นการแสดงฤทธิ์ของปู่เจ้าสมิงพราย
“ o ตามองเสือพรับ เห็นเสือกลับเปนแมว แถมจราศศุภลักษณ์ มลักเห็นโฉมปู่เจ้า แปรรูปเถ้าหงอกสกาว คิ้วขาวขนตาเผือก กลับตระเลือกเปนบ่าว พึงมล่าวโฉมกล้องแกล้ง งามอรรแถ้งโถงเถง ทรงลักเลงเสสรวล สคราญครวญงามถนัด รบัดเปนกลางแก่ ตระแหน่รูปลักษณดี มีมารยาทเสี่ยมสาร สองถวายสการบูชา อันแต่งมาทุกสิ่ง จึ่งทูลสารสองไท้ สองราชก้มกราบไหว้ พระบาทเจ้ากูมา ฯ”
บทนี้กล่าวถึงรูปร่างของปู่เจ้าสมิงพราย ท่านแสดงเริ่มจากเสือ กลายเป็นแมว แล้วการเป็นคนหนุ่มหน้าตาดี แล้วผมก็หงอก คิ้วขาวขนตาเผือก แล้วก็กลับมาเป็นหนุ่มวัยรุ่นหน้าตาหล่อเหลา แล้วก็กลับกลายเป็นชายหนุ่มใหญ่วัยกลางคน ดังจากที่กล่าวมาปู่เจ้าสมิงพรายมีรูปพรรณสัณฐานในรูปต่างๆตามแต่ท่านจะดลใจ จะแปลงเป็นเสือก็ได้ เป็นแมวก็ดี เป็นหนุ่มวัยรุ่นสุดหล่อ หรือเป็นชายแก่ผมหงอกก็ทำได้
บทที่กล่าวว่าปู่เจ้าสมิงพรายเข้าญาณได้
“ปู่ก็ธิญาณเล็งดู กูจะช่วยควรฤๅมิควร รู้ทั้งมวลทุกอัน ด้วยผลกรรม์เขาแต่ก่อน ทำหย่อนหย่อนตึงตึง ส่วนจะถึงบมิหยุด เถ้าว่าจะพลัดสุดพลันม้วย ด้วยผลกรรมเขาเอง แต่เพรงเขาทั้งสอง ทำบุญปองจะไจ้ ขอได้พึ่งบุญตู”
ขณะนั้นปู่เจ้าสมิงพรายกำลังเข้าญาณเพ่งดูเรื่องราวรู้ด้วยบุพกรรมชักนำจึงรับปากจะไปช่วยพระเพื่อนกับพระแพง แล้วปู่เจ้าสมิงพรายก็เหาะเหินเดินอากาศมาช่วยพระเพื่อนกับพระแพง (มีฤทธิ์มีเดชมากครับ ท่านปู่ฤๅษีสมิงพราย)
ต่อมาท่านปู่เจาสมิงพรายก็ช่วยทำเสน่ห์ใส่พระลอถึง 3 ครั้ง โดยครั้งแรกเขียนยันต์มัดไว้ปลายต้นยางใหญ่ ลมพัดไปถึงพระลอก็กระสันกระสายออกป่าหาพระเพื่อนพระแพง แต่หมอสิทธิไชยก็ให้ยาแก้ได้ ครั้งที่สองเขียนยันต์ช้างเหนี่ยวดึงมัดไว้ปลายต้นตะเคี่ยนใหญ่ ลมพัดไปถึงพระลอก็ร้อนใจกระสับกระส่ายรุ่มหลงมนต์คาถา แต่หมอสิทธิไชยก็รักษาได้ อีกทั้งยังเชิญผีรักษาเทวดารักษาเมือง เสื้อบ้านเสื้อเมืองดูแลพิทักษ์ปกปักษ์รักษา
“o ปู่รำพึงถึงเทพดา หากันมาแต่ป่า มาแต่ท่าแต่น้ำ มาแต่ถ้ำคูหา ทุกทิศมานั่งเฝ้า พระปู่เจ้าทุกตำบล ตนบริพารทุกหมู่ ตรวจตราอยู่ทุกแห่ง ปู่แต่งพระพนัสบดี ศรีพรหมรักษ์ยักษ์กุมาร บริพารภูตปีศาจ ดาเดียรดาษมหิมา นายกคนแลคน ตนเทพยผู้ห้าวท้าวผู้หาญ เรืองฤทธิ์ชาญเหลือหลาย ตั้งเปนนายเปนมุล ตัวขุนให้ขี่ช้าง บ้างขี่เสือขี่สีห์ บ้างขี่หมีขี่หมู บ้างขี่งูขี่เงือก ขี่ม้าเผือกผันผาย บ้างขี่ควายขี่แรด แผดร้องก้องน่ากลัว ภูตแปรตัวหลายหลาก แปรเปนกากภาษา เปนหัวกาหัวแร้ง แสร้งเปนหัวเสือหัวช้าง เปนหัวกวางหัวฉมัน ตัวต่างกันพันลึก ลคึกกุมอาวุธ เครื่องจะยุทธยงยิ่ง เต้นโลดวิ่งระเบง คุกเครงเสียงคะครื้น ฟื้นไม้ไหล้หินผา ดาษดากันผาดเผ้ง รเร้งร้องก้องกู่เกรียง เสียงสเทือนธรณี เทียบพลผีเสร็จสรรพ ปู่ก็บังคับทุกประการ จึ่งบอกสารอันจะใช้ ให้ทั้งยามนตร์ดล บอกทั้งกลอันจะทำ ให้ยายำเขาเผือด มนตราเหือดหายศักดิ์ ให้อารักษ์เขาหนี ผีเขาแพ้แล้วไส้ กูจึงจะใช้สลาเหิร เดิรเวหาไปสู่ เชิญพระภูธรท้าว ชักมาสู่สองหย้าว อย่าคล้าคำกู สั่งนี้ ฯ”
ครั้งสุดท้ายท่านปู่เจ้าสมิงพรายจึงได้เรียกภูตผีปีศาจ เทวดาอารักษ์ สารพัดผีสางเทวดามาเป็นกองทัพเพื่อจะตีเมืองสรวงชิงตัวพระลอให้พระเพื่อนกับพระแพง แล้วใช้สลาเหิร บินไปตกในหมากพลูของพระลอ กองทัพผีและเทวดาของปู่เจ้าสมิงพรายรบชนะ ยาของหมอสิทธิไชยเสื่อม แล้วปู่เจ้าสมิงพรายก็เสกแมลงภู่บินไปตกลงหมาก เมื่อพระลอเสวยหมากพูลนั้นก็รุ่มร้อนคลุ้มคลั่งจะออกป่า สุดท้ายพระลอก็ออกป่ามา ปู่เจ้าสมิงพรายก็เสกผีสิงในไก่แก้วล่อพระลอให้มาพบกับพระเพื่อนกับพระแพง
๐ อะหัง วันทามิ คุรุครูอาจาริเยณะ พยัคฆสิงหราชาไกสีห์ ฤๅษีสมิงไพร สัพพะเมวะโทสัง ขะมะถะเม ภันเต
ผู้เข้าชม
1155 ครั้ง
ราคา
โทรสอบถาม
สถานะ
มาใหม่
ชื่อร้าน
พระเครื่องอุษาคเนย์✦✦Southeast Asia Amulets✦✦护身符东南亚✦✦
ร้านค้า
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
0925462325
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
อ้วนโนนสูงภูมิ IRNongBossยุ้ย พลานุภาพMuthitaโกหมู
หริด์ เก้าแสนpoosit555ชาวานิชเทพจิระว.ศิลป์สยามเจริญสุข
tintinsailom.siLeksoi8เนินพระ99jazzsiam amuletPuthon161930
จิ๊บพุทธะมงคลaonsamuiเสน่ห์พระเครื่องsomemanLungchadkumpha
แมวดำ99sun99พีพีพระสมเด็จบี บุรีรัมย์tplasPopgomes

ผู้เข้าชมขณะนี้ 1799 คน

เพิ่มข้อมูล

พระฤาษี หน้าสมิงพราย เนื้อดิน กรุวัดมหาวัน จ.ลำพูน



  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
พระฤาษี หน้าสมิงพราย เนื้อดิน กรุวัดมหาวัน จ.ลำพูน
รายละเอียด
ท่านปู่เจ้าสมิงพราย เป็นฤๅษีที่มีอาศรมบนภูเขาอยู่ทางภาคเหนือดินแดนล้านนา เป็นฤๅษีที่สัมฤทธิ์โลกียญาณ คือ ญาณในโลก ประกอบด้วย อิทธิฤทธิ์วิธี (แปลงกาย เหาะเหินเดินอากาศ บังตาดลใจได้) ทิพจักขุ (มีตาทิพย์ ได้บุพเพสาวานุสิติญาณ เห็นบุพกรรมต่างๆ) เป็นต้น รูปร่างหน้าตาของท่านปู่เจ้าสมิงพรายเอาแน่เอานอนไม่ได้ ท่านสามารถปรากฏกายอยู่ในรูปอะไรก็ได้ ทั้งเด็กหนุ่ม วัยรุ่น วัยกลาง วัยเฒ่าแก่ เป็นเสือโคร่ง เสือเหลือง หรือแมว เป็นโน้นเป็นนี่ตามแต่ท่านจะปรารถนาให้เห็น
ส่วนเรื่องอายุของท่านปู่เจ้าสมิงพรายก็หลายร้อยๆปี ทราบมาว่าท่านอยู่ได้ถึง ๑ กัปเลยทีเดียว ส่วนต้นสายปลายเหตุระวัติว่าท่านเห็นใครมาจากไหนนั้นก็ไม่ทราบ ไม่มีชื่อจริงของท่าน นอกจาก “ปู่เจ้าสมิงพราย”
ในลิลิตพระลอ ปู่เจ้าสมิงพราย เป็นชายแก่ๆ แต่ปรากฏวัยกลางคน นุ่งขาวห่มขาว พำนักอาศัยอยู่ป่าเขาลำเนาไพร มีฤทธิ์มีเดชมาก เก่งกาจในทางคาถาอาคมและการทำมหาเสน่ห์มหานิยม เสกสลาเหิร(แมลงภู่)บินไปตกลงเป็นหมากผู้ที่กินต้องตกอยู่ภายใต้มนต์คาถา ปลุกผีเรียกภูตเทวดาได้ และท่านยังไม่รับเงินตราหรือทรัพย์สมบัติใดๆ ช่วยตามบุพกรรมเก่า
เสียงลือเสียงเล่าอ้างอันใด พี่เอย
เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า
สองเขือพี่หลับใหล ลืมตื่น ฤๅพี่
สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ถามเผือ ๚ะ
ในหนังสือเรียนวิชาภาษาไทย โดยกล่าวถึงลิลิตพระลอ ผมอ่านแค่รอบเดียวบทนี้ผมจำได้มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเป็นอะไรที่มาดลใจอย่างหน้าประหลาด จากนั้นผมก็ไม่ได้สนใจอะไรกับลิลิตพระลอจนอยู่มาวันหนึ่งได้ยินเพลงยอยศพระลอ และอะไรอีกก็ไม่รูมาดลใจให้อยากอ่านลิลิตพระลอ ผมจึงเริ่มอ่านมาตั่งแต่ตอนนั้น ชั้นประถมนะอ่านโคลงกลอนใช้ว่าจะรู้เรื่องเข้าใจไปซะหมด อ่านจากหนังสืออ่านเล่นสำหลับเด็กและที่ขยายความแล้ว ทำให้รู้จักชื่อนี้ “ปู่เจ้าสมิงพราย” รู้จักว่าเป็นใคร? และต่อมาก็เป็นแรงบันดาลใจพอผมโตขึ้นเล่นของเลย ความจริงเริ่มมีแววมาแต่เด็กๆแล้วครับ
มาเข้าประวัติของท่านปู่เจ้าสมิงพราย โดยส่วนตัวผมเรียกท่านว่า “ปู่เจ้าสมิงไพร” องค์เดียวกันนั้นแหละครับ แต่ในที่นี้จะเขียนว่าปู่เจ้าสมิงพรายจะได้ไม่สับสนงุนงง ขอกล่าวจากเนื้อหาลิลิตพระลอ ในตอนต่างๆที่เกี่ยวกับท่านปู่เจ้าสมิงพราย ในตอนแรกจะเท้าความถึงเมื่อสมัยต้นกรุงศรีอยุธยา สมัยนั้นมีเมืองเหนืออยู่สองเมือง คือ เมืองสรวงและเมืองสรอง ซึ่งจากการสันนิษฐานเมื่อเมืองสรอง ปัจจุบันตั้งอยู่ที่อำเภอสอง จังหวัดแพร่ (อ้างอิงจากพงศาวดารโยนก และ พงศาวดารเมืองน่าน กล่าวถึงเมืองสอง) ส่วนอีกเมืองหนึ่ง ชื่อว่าเมืองสรวง สันนิษฐานว่าเมืองสรวงน่าจะอยู่ที่อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง
ท้าวแมนสรวง พระยาหลวงผ่านเผ้า เจ้าเมืองสรวง มีโอรสองคหนึ่งนามว่า พระลอ ท้าวแมนสรวงต้องการตีเมืองสรองเป็นเมืองขึ้น แต่ทำไม่สำเร็จเพราะท้าวพิไชยยพิษณุกรป้องกันเมืองสรองไว้ได้ แต่กระนั้น พระยาพิมพิสาครราช เจ้าเมืองสองก็สวรรคตบนคอช้าง ต่อมาเมื่อสิ้นท้าวแมนสรวงแล้ว พระลอจึงเสวยราชสมบัติสืบเมืองสรวงต่อ ชื่อเสียงในความหลอของพระลอเล่าลือกันไปทั่ว จนกิตติศัพท์นี้เข้าหูพระเพื่อนกับพระแพง ธิดาในท้าวเมืองสรอง พระเพื่อนพระแพงถึงกับจับไข้ในชื่อเสียงความหล่อของพระลอ (อะไรจะหล่อขนาดนั้น)
พระพี่เลี้ยงทราบความนัยว่าแกล้งป่วย จึงแสร้งไปบอกพระย่าและพระบิดามาดารของพระเพื่อนพระแพงว่า จับไข้ด้วยขวัญหนีเข้าป่า ต้องรีบเรียกขวัญกลับมาโดยเร็ว สองพี่เลี้ยงจึงเบิกช้างต้น เทียมลม(น่าจะเร็วเท่าลม) และพระพาย(ช้างตัวนี้เร็วเท่าลม) ไปรับพ่อหมอใหญ่ เพื่อขึ้นเขาไปขอความช่วยเหลือจากปู่เจ้าสมิงพราย
ถึงตอนนี้จากบทประพันธ์บทหนึ่งตอนที่หมอใหญ่พาสองพี่เลี้ยงไปพบปู่เจ้าสมิงพราย
“o ตามกันไปบหึง ถึงตีนเขาแต่ล่าง แลลิงค่างบ่างชนี ผีผิ่วร้องน่ากลัว หัวหูพองอยู่คร้าม เสือสางด้ามด้อมทาง แรดควายขวางขวัดอยู่ หมู่กระทิงเที่ยวป่า วัวลานล่าเล็มไพร หมู่หมีไปคคล้าย นางช้างผ้ายคคล่ำ บรู้กี่ส่ำตามสาร งูพพานพิษกล้า งูเหลือมคว้ารัดควาย เยียงผาผายปีนป่าย ฝ่ายช้างพังเซราซรึก สัตว์พันฦกพันลาย .........เห็นแนวน้ำบางบึง ชรทึงธารห้วยหนอง จระเข้มองแฝงฝั่ง สรพรั่งหัวขึ้นขวักไขว่ ช้างน้ำไล่แทงเงา เงือกเอาคนใต้น้ำ กระล่ำตากระเหลือก กระเกลือกกลอกตากลม ผมกระหวัดจำตาย ฝ่ายหนปลายไม้แมก ฟังเสียงแสรกเง้างูด ทิ้งทูดบ่นพพึมเสียง เค้ากู่เคียงคู่ร้อง ก้องดงดุจตระหวาด ผาดฟังตกใจกลัว...บ เปนใดดอกนะแม่ กระแหน่นี้นะเจ้า พระปู่เราหากทำเอง...”
บทนี้หมอใหญ่พาสองพี่เลี้ยงมาถึงตีนเขาที่ปู่เจ้าสมิงพรายพำนักอยู่ ซึ่งมีสิงสาราสัตว์เผ่นพ่านไปทั่ว เห็นแล้วต้อสะพรึงกลัว เช่น งูเหลือมกำลังรัดควาย เป็นต้น พอถึงบึงก็เห็นจระเข้ และช้างน้ำไล่แทงงา เงือกกำลังสมสู่กับคนใต้น้ำ ดูแล้วน่ากลัวยิ่งนัก และหมอใหญ่บอกสองพี่เลี้ยงว่าไม่ต้องกลัวไม่เป็นอะไรหรอก ปู่เจ้าสมิงพรายดลให้เห็น
อีกบทหนึ่งเป็นการแสดงฤทธิ์ของปู่เจ้าสมิงพราย
“ o ตามองเสือพรับ เห็นเสือกลับเปนแมว แถมจราศศุภลักษณ์ มลักเห็นโฉมปู่เจ้า แปรรูปเถ้าหงอกสกาว คิ้วขาวขนตาเผือก กลับตระเลือกเปนบ่าว พึงมล่าวโฉมกล้องแกล้ง งามอรรแถ้งโถงเถง ทรงลักเลงเสสรวล สคราญครวญงามถนัด รบัดเปนกลางแก่ ตระแหน่รูปลักษณดี มีมารยาทเสี่ยมสาร สองถวายสการบูชา อันแต่งมาทุกสิ่ง จึ่งทูลสารสองไท้ สองราชก้มกราบไหว้ พระบาทเจ้ากูมา ฯ”
บทนี้กล่าวถึงรูปร่างของปู่เจ้าสมิงพราย ท่านแสดงเริ่มจากเสือ กลายเป็นแมว แล้วการเป็นคนหนุ่มหน้าตาดี แล้วผมก็หงอก คิ้วขาวขนตาเผือก แล้วก็กลับมาเป็นหนุ่มวัยรุ่นหน้าตาหล่อเหลา แล้วก็กลับกลายเป็นชายหนุ่มใหญ่วัยกลางคน ดังจากที่กล่าวมาปู่เจ้าสมิงพรายมีรูปพรรณสัณฐานในรูปต่างๆตามแต่ท่านจะดลใจ จะแปลงเป็นเสือก็ได้ เป็นแมวก็ดี เป็นหนุ่มวัยรุ่นสุดหล่อ หรือเป็นชายแก่ผมหงอกก็ทำได้
บทที่กล่าวว่าปู่เจ้าสมิงพรายเข้าญาณได้
“ปู่ก็ธิญาณเล็งดู กูจะช่วยควรฤๅมิควร รู้ทั้งมวลทุกอัน ด้วยผลกรรม์เขาแต่ก่อน ทำหย่อนหย่อนตึงตึง ส่วนจะถึงบมิหยุด เถ้าว่าจะพลัดสุดพลันม้วย ด้วยผลกรรมเขาเอง แต่เพรงเขาทั้งสอง ทำบุญปองจะไจ้ ขอได้พึ่งบุญตู”
ขณะนั้นปู่เจ้าสมิงพรายกำลังเข้าญาณเพ่งดูเรื่องราวรู้ด้วยบุพกรรมชักนำจึงรับปากจะไปช่วยพระเพื่อนกับพระแพง แล้วปู่เจ้าสมิงพรายก็เหาะเหินเดินอากาศมาช่วยพระเพื่อนกับพระแพง (มีฤทธิ์มีเดชมากครับ ท่านปู่ฤๅษีสมิงพราย)
ต่อมาท่านปู่เจาสมิงพรายก็ช่วยทำเสน่ห์ใส่พระลอถึง 3 ครั้ง โดยครั้งแรกเขียนยันต์มัดไว้ปลายต้นยางใหญ่ ลมพัดไปถึงพระลอก็กระสันกระสายออกป่าหาพระเพื่อนพระแพง แต่หมอสิทธิไชยก็ให้ยาแก้ได้ ครั้งที่สองเขียนยันต์ช้างเหนี่ยวดึงมัดไว้ปลายต้นตะเคี่ยนใหญ่ ลมพัดไปถึงพระลอก็ร้อนใจกระสับกระส่ายรุ่มหลงมนต์คาถา แต่หมอสิทธิไชยก็รักษาได้ อีกทั้งยังเชิญผีรักษาเทวดารักษาเมือง เสื้อบ้านเสื้อเมืองดูแลพิทักษ์ปกปักษ์รักษา
“o ปู่รำพึงถึงเทพดา หากันมาแต่ป่า มาแต่ท่าแต่น้ำ มาแต่ถ้ำคูหา ทุกทิศมานั่งเฝ้า พระปู่เจ้าทุกตำบล ตนบริพารทุกหมู่ ตรวจตราอยู่ทุกแห่ง ปู่แต่งพระพนัสบดี ศรีพรหมรักษ์ยักษ์กุมาร บริพารภูตปีศาจ ดาเดียรดาษมหิมา นายกคนแลคน ตนเทพยผู้ห้าวท้าวผู้หาญ เรืองฤทธิ์ชาญเหลือหลาย ตั้งเปนนายเปนมุล ตัวขุนให้ขี่ช้าง บ้างขี่เสือขี่สีห์ บ้างขี่หมีขี่หมู บ้างขี่งูขี่เงือก ขี่ม้าเผือกผันผาย บ้างขี่ควายขี่แรด แผดร้องก้องน่ากลัว ภูตแปรตัวหลายหลาก แปรเปนกากภาษา เปนหัวกาหัวแร้ง แสร้งเปนหัวเสือหัวช้าง เปนหัวกวางหัวฉมัน ตัวต่างกันพันลึก ลคึกกุมอาวุธ เครื่องจะยุทธยงยิ่ง เต้นโลดวิ่งระเบง คุกเครงเสียงคะครื้น ฟื้นไม้ไหล้หินผา ดาษดากันผาดเผ้ง รเร้งร้องก้องกู่เกรียง เสียงสเทือนธรณี เทียบพลผีเสร็จสรรพ ปู่ก็บังคับทุกประการ จึ่งบอกสารอันจะใช้ ให้ทั้งยามนตร์ดล บอกทั้งกลอันจะทำ ให้ยายำเขาเผือด มนตราเหือดหายศักดิ์ ให้อารักษ์เขาหนี ผีเขาแพ้แล้วไส้ กูจึงจะใช้สลาเหิร เดิรเวหาไปสู่ เชิญพระภูธรท้าว ชักมาสู่สองหย้าว อย่าคล้าคำกู สั่งนี้ ฯ”
ครั้งสุดท้ายท่านปู่เจ้าสมิงพรายจึงได้เรียกภูตผีปีศาจ เทวดาอารักษ์ สารพัดผีสางเทวดามาเป็นกองทัพเพื่อจะตีเมืองสรวงชิงตัวพระลอให้พระเพื่อนกับพระแพง แล้วใช้สลาเหิร บินไปตกในหมากพลูของพระลอ กองทัพผีและเทวดาของปู่เจ้าสมิงพรายรบชนะ ยาของหมอสิทธิไชยเสื่อม แล้วปู่เจ้าสมิงพรายก็เสกแมลงภู่บินไปตกลงหมาก เมื่อพระลอเสวยหมากพูลนั้นก็รุ่มร้อนคลุ้มคลั่งจะออกป่า สุดท้ายพระลอก็ออกป่ามา ปู่เจ้าสมิงพรายก็เสกผีสิงในไก่แก้วล่อพระลอให้มาพบกับพระเพื่อนกับพระแพง
๐ อะหัง วันทามิ คุรุครูอาจาริเยณะ พยัคฆสิงหราชาไกสีห์ ฤๅษีสมิงไพร สัพพะเมวะโทสัง ขะมะถะเม ภันเต
ราคาปัจจุบัน
โทรสอบถาม
จำนวนผู้เข้าชม
1156 ครั้ง
สถานะ
มาใหม่
โดย
ชื่อร้าน
พระเครื่องอุษาคเนย์✦✦Southeast Asia Amulets✦✦护身符东南亚✦✦
URL
เบอร์โทรศัพท์
0925462325
ID LINE
0925462325
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี